14 กันยายน ครบรอบ 110 ปี “วันหมออนามัย”

110 ปีย่างก้าวสู่วันหมออนามัยแห่งชาติ ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ
109 ปีก่อน คนไทยในชนบทยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก ยากจน
ขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพ เกิดเจ็บป่วยล้มตายด้วยโรคระบาดต่างๆเป็นจำนวนมาก
ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ไม่มีใช้ บางพื้นที่เป็นป่าเขา
เสี่ยงต่ออันตรายจากผู้ก่อการร้าย ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดที่พึ่งพาอาศัย
เนื่องจากหน่วยงานของรัฐ ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้อย่างทั่วถึง

,,หมออนามัย ,,
เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกลุ่มแรกของประเทศไทย
ที่เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
ในท้องถิ่นทุระกันดาร ที่เสี่ยงต่อภัยอันตรายต่างๆ เพื่อบรรเทาความทุกข์
ความเดือดร้อน ความเจ็บป่วย และเป็นที่พึ่งด้านต่างๆของประชาชน
มีสถานบริการที่เรียกว่า โอสถสถาน สุขศาลา สำนักงานผดุงครรภ์อนามัย
และมีชื่อเรียกภายหลังจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า สถานีอนามัย
ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในปัจจุบัน

เป็นเวลากว่า 100 กว่าปีแล้ว ที่หมออนามัย สถานีอนามัย และชาวบ้าน
ต่างได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จนกลายเป็นความรัก ความศรัทธา
ความไว้วางใจซึ่งกันและกันตลอดมา ทำให้หมออนามัยกลายเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน
เป็นที่พึ่งด้านการดูแลความเจ็บป่วย การ ให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนความเชื่อ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การควบคุมอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค
การส่งเสริมสุขภาพโดยเฉพาะงานด้านอนามัยแม่และเด็ก โภชนาการ และการให้วัคซีน
ตลอดจนการพัฒนาหมู่บ้านให้สอดคล้องกับวิถีความเป็นอยู่ ประเพณี วัฒนธรรม
และความเป็นอยู่ของชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งตนเองได้
ตามแนวทางของการสาธารณสุขมูลฐาน

บนเส้นทางแห่งจิตอุดมการณ์ของหมออนามัย ..
บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุขที่เปรียบเสมือนรากฝอยของกระทรวงสาธารณสุข ..
แต่ส่งผลอันยิ่งใหญ่ต่อระบบสุขภาพคนไทย ..
ผ่านเวลาที่พิสูจน์ความดีความงามมาอย่างยาวนานถึง 110 ปี
ปีแห่งความดีที่มีต่อชาวบ้าน เป็นความดีต่อชุมชน
หมออนามัยเป็นผู้ที่มีความรักและศรัทธาต่อประชาชน เป็นบุคคลผู้มีจิตอาสา อดทน
และเสียสละ เข้าไปทำงานเพื่อพัฒนาสุขภาวะประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี
ไม่เจ็บป่วย และเมื่อเกิดการเจ็บป่วยแล้ว
ก็สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื่องในโอกาสครบรอบ 110
ปีความดีของหมออนามัยที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ 
นี่คือความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากการสืบทอดอุดมการณ์ของหมออนามัยมาอย่างยาวนาน ..

เพราะว่าหมออนามัยคือ

1. บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุขผู้ดูแลสุขภาพประชาชน
ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
โดยการให้บริการด้านการป้องกันควบคุมโรค การอนามัยสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมสุขภาพ
รักษาพยาบาลเบื้องต้น ฟื้นฟูสภาพ ตามกลุ่มอายุ กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ
ซึ่งเป็นการดูแลชาวบ้านตั้งแต่เกิดจนวาระสุดท้ายของชีวิต

2. บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุข .. ที่เสริมพลังสร้างอำนาจให้ประชาชนในชุมชน
มีความเข้มแข็งด้านการดูแลสุขภาพตนเอง พึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง
ตั้งแต่ปฏิสนธิจนกระทั่งสู่เชิงตะกอน เป็นต้นแบบของประชาชน
ในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง และมีความสุข

3. บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุข ..
ที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายชุมชน ด้วยความรัก และศรัทธาต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็น อสม.
อบต. ครู พระ ผู้นำชุมชน หรือองค์กรชุมชนต่างๆ
เพราะหมออนามัยคือผู้อยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุดในระบบสุขภาพของประเทศไทย

4. บุคลากรวิชาชีพสาธารณสุข ..ที่ทำงานเป็นภาคีสุขภาพกับวิชาชีพทุกสาขา
ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชฯ ทันตแพทย์ รวมถึงวิชาชีพอื่นๆ
ทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข ..
เพื่อประสานความร่วมมือขับเคลื่อนสุขภาวะของชุมชนโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ด้วยความรักและความปรารถนาดีที่จะเห็นประชาชนสุขภาพดี ชุมชนมีความเข้มแข็ง
ซึ่งจะต้องช่วยผลักดันนโยบายต่างๆ ..
ให้เกิดการปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งการศึกษา การสาธารณสุข
ที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ทั้งหมดนี้คือ ..
ความดีความงามของหมออนามัยที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ …

14 กันยายนวันหมออนามัยแห่งชาติปีนี้ .. เป็นปีแห่งมหามงคลของชาวไทยทั้งมวล ..
และครบรอบ 110 ปี ของความดีงามที่ก้าวย่างสู่วันหมออนามัยแห่งชาติ ..
วันที่เป็นสัญลักษณ์แห่งจิตอุดมการณ์ของหมออนามัยทั่วประเทศ ..
วันแห่งการรวมพลังกองทัพแนวรบด่านหน้าของระบบสุขภาพคนไทย ..
วันที่หมออนามัยมีความพร้อมต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ..
เพื่อเผชิญปัญหาสุขภาพใหม่ๆของประชาชน ..
และพร้อมที่จะสร้างคุณูปการให้กับระบบการป้องกันควบคุมโรคอย่างมืออาชีพ ..
เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน .. ให้คนไทยไม่เจ็บป่วย และมีอายุยืนยาว
ตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสืบไป

………………..

14 กันยายน 2565

110 ปีหมออนามัย

เราจงภูมิใจ ..หมออนามัย !!